Fluivac Product Recovery

กว่า 20 ปีของการพัฒนา FLUIVAC เพื่อลดของเสีย ประหยัดน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพให้สายการผลิตทั่วโลก
ปี 2021–ปัจจุบัน: วิจัยต่อยอดใช้ FLUIVAC กับระบบ CIP (Clean in Place) เพื่อประหยัดน้ำ-พลังงานในการทำความสะอาดท่อผลิต

“FLUIVAC – นวัตกรรมระดับโลกที่ใช้เวลาพัฒนามากว่า 20 ปี เพื่อเปลี่ยนของเสียให้เป็นผลกำไร ลดน้ำ ลดพลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้กับอุตสาหกรรมทั่วโลก”

FLUIVAC คือระบบกู้คืนผลิตภัณฑ์จากท่อ (Product Recovery) โดยใช้แรงดูดสุญญากาศผลิตจากเนเธอร์แลนด์ ที่ช่วยดูดของเหลวในท่อให้กลับมาใช้งานได้สูงสุด โดยไม่ต้องล้างท่อก่อน ทำให้ลดของเสียได้มากกว่า 95% พร้อมทั้งลดการใช้น้ำ และเวลาในการล้างระบบ (CIP)

เหมาะสำหรับโรงงานที่ต้องการประหยัดวัตถุดิบ ควบคุมต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในทุกกระบวนการ — โดยไม่ต้องลงทุนเปลี่ยนท่อหรือระบบใหม่ทั้งหมด

With FLUIVAC, you save valuable utilities and turn valueless waste into sellable product. More efficiency, less waste.

กู้คืนของเหลวและผลิตภัณฑ์หนืดจากท่อกระบวนการผลิต

โรงงานของคุณกำลังมองหาโซลูชันที่ช่วยกู้คืนวัตถุดิบและลดของเสียใช่ไหม?

FLUIVAC คือเครื่องมืออัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อการกู้คืนผลิตภัณฑ์ในสายการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งของเหลวและผลิตภัณฑ์หนืดจากท่อขนาดสูงสุด 100 มม.

ระบบสามารถจัดการกับสายการผลิตหรือสาย CIP ได้ถึง 300 เส้นทาง โดยการตั้งสูตรอัตโนมัติล่วงหน้า

เปลี่ยนของเสียให้กลายเป็นกำไร ด้วยระบบ FLUIVAC ที่จดสิทธิบัตรเฉพาะ ช่วยกู้คืนวัตถุดิบในระบบท่อและอุปกรณ์ได้สูงสุดถึง 98% – ประหยัดทั้งวัตถุดิบ น้ำ พลังงาน และเวลา

ระบบการทำงานของ FLUIVAC

FLUIVAC ทำความสะอาดระบบท่อของคุณใน 4 ขั้นตอน โดยใช้เพียง อากาศกรองปลอดเชื้อ (Sterile Filter Air) และ น้ำในปริมาณน้อยมาก:

1.PUSH
ดันผลิตภัณฑ์ออกจากท่ออย่างควบคุมด้วยลมอัด ประหยัดได้ 60–70% ของผลิตภัณฑ์

2.BLOW
เป่าผลิตภัณฑ์ที่เหลือออกจากท่อด้วยคอมเพรสเซอร์ภายใน ประหยัดรวมได้ถึง 90–98%

3.RINSE
ล้างเศษผลิตภัณฑ์ที่เหลือบนผิวท่อด้วยน้ำเพียงเล็กน้อย ให้ท่อสะอาดในระดับที่มองเห็นได้

4.DRY
เป่าแห้งภายในท่อ ให้พร้อมเริ่มกระบวนการผลิตใหม่ทันที โดยไม่ต้องเสี่ยงกับการปนเปื้อนหรือสูญเสียผลิตภัณฑ์ในรอบแรก
เมื่อนำ FLUIVAC มาใช้งานร่วมกับระบบ CIP ของคุณ จะสามารถประหยัด น้ำและน้ำยา ได้มากขึ้นอีกด้วย

ยั่งยืน ประหยัด และคุ้มค่า

✅ รักษ์โลก: FLUIVAC ช่วยให้โรงงานของคุณกู้คืนวัตถุดิบได้สูงสุด 98% และลดการใช้น้ำได้ถึง 96%

✅ คุณภาพสูง: เครื่องถูกออกแบบมาให้กะทัดรัด พร้อม HMI หน้าจอควบคุม Siemens หรือ Allen Bradley ที่รวมส่วนประกอบคุณภาพสูงไว้ครบ เช่น คอมเพรสเซอร์, ถังแรงดัน, วาล์วควบคุม และเซ็นเซอร์

✅ ใช้งานง่ายและปลอดภัย: ตั้งค่าการทำงานง่ายด้วยระบบพารามิเตอร์ที่ไม่ซับซ้อน สามารถเชื่อมต่อกับสายการผลิตอัตโนมัติผ่าน PROFINET หรือ Ethernet/IP ได้ทันที

กระบวนการ FLUIVAC มี 4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ PUSH, BLOW, RINSE และ DRY ซึ่งสามารถทำแยกกันหรือทำต่อเนื่องกันได้ โดยเวลาประมวลผลเฉลี่ยของแต่ละรอบอยู่ที่ 4 ถึง 10 นาที เท่านั้น

STEP 1 : PUSH

ขั้นตอน PUSH มักเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการ FLUIVAC โดยใช้อากาศอัดจากโรงงานที่ถูกเก็บไว้ภายในเครื่อง FLUIVAC เพื่อผลักของเหลวจำนวนมากไปยังปลายทางอย่างควบคุมได้

FLUIVAC จะควบคุมความเร็วในการไหลของผลิตภัณฑ์อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถกู้คืนผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้ถึง 60–70% จากท่อส่งการผลิต

STEP 2 : BLOW

ขั้นตอน BLOW มักจะดำเนินต่อจาก PUSH ในกระบวนการ FLUIVAC โดยใช้อากาศจากบริเวณที่ติดตั้งเครื่อง FLUIVAC ซึ่งจะถูกดูดเข้าและอัดผ่านคอมเพรสเซอร์ภายในเครื่อง

แม้หลังจากขั้นตอน PUSH จะสามารถผลักผลิตภัณฑ์ออกได้เป็นจำนวนมาก แต่ยังคงมีผลิตภัณฑ์ตกค้างตามผนังท่อหรือบริเวณที่เข้าถึงยาก เช่น ข้อต่อ พาสเจอร์ไรเซอร์ คูลเลอร์ หรือปั๊มต่าง ๆ

ในขั้นตอน BLOW อากาศที่ถูกอัดด้วยความเร็วสูงจะถูกเป่าไล่ผลิตภัณฑ์ออกจากผิวท่ออย่างมีประสิทธิภาพ

หลังขั้นตอนนี้ สามารถกู้คืนผลิตภัณฑ์ได้รวมเฉลี่ยถึง 90–98% ซึ่งยังคงสามารถนำกลับมาใช้งานได้จริงในกระบวนการผลิต

STEP 2 : BLOW

ขั้นตอน BLOW มักจะดำเนินต่อจาก PUSH ในกระบวนการ FLUIVAC โดยใช้อากาศจากบริเวณที่ติดตั้งเครื่อง FLUIVAC ซึ่งจะถูกดูดเข้าและอัดผ่านคอมเพรสเซอร์ภายในเครื่อง

แม้หลังจากขั้นตอน PUSH จะสามารถผลักผลิตภัณฑ์ออกได้เป็นจำนวนมาก แต่ยังคงมีผลิตภัณฑ์ตกค้างตามผนังท่อหรือบริเวณที่เข้าถึงยาก เช่น ข้อต่อ พาสเจอร์ไรเซอร์ คูลเลอร์ หรือปั๊มต่าง ๆ

ในขั้นตอน BLOW อากาศที่ถูกอัดด้วยความเร็วสูงจะถูกเป่าไล่ผลิตภัณฑ์ออกจากผิวท่ออย่างมีประสิทธิภาพ

หลังขั้นตอนนี้ สามารถกู้คืนผลิตภัณฑ์ได้รวมเฉลี่ยถึง 90–98% ซึ่งยังคงสามารถนำกลับมาใช้งานได้จริงในกระบวนการผลิต

STEP 3 : RINSE

ขั้นตอน RINSE เป็นลำดับที่สามของกระบวนการ FLUIVAC โดยใช้อากาศจากภายนอกที่ถูกอัดผ่านคอมเพรสเซอร์ พร้อมกับฉีดน้ำปริมาณเล็กน้อยเข้าไปในกระแสอากาศ

อากาศผสมน้ำนี้จะช่วยชะล้างผลิตภัณฑ์ที่ตกค้างจากสองขั้นตอนก่อนหน้า โดยน้ำสามารถเข้าถึงจุดที่อากาศเพียงอย่างเดียวเข้าไม่ถึง เช่น รอยต่อหรือมุมอับในระบบท่อ

ความสามารถในการนำผลิตภัณฑ์ที่ฟื้นคืนจากขั้นตอนนี้กลับมาใช้งานได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิตและความเหมาะสมในการผสมน้ำกับผลิตภัณฑ์

หลังจากขั้นตอน RINSE สามารถกู้คืนผลิตภัณฑ์ได้เฉลี่ยถึง 99% และระบบท่อจะสะอาดจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (100%)

นอกจากนี้ ขั้นตอน RINSE ยังสามารถทำหน้าที่เป็นการล้างล่วงหน้า (Pre-rinse) เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทำความสะอาดระบบในขั้นต่อไปอีกด้วย

STEP 4 : DRY

 ขั้นตอน DRY คือขั้นตอนที่สี่และขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการ FLUIVAC โดยใช้อากาศจากภายนอกที่ถูกดูดเข้า อัด และส่งผ่านเข้าไปในระบบท่อ เพื่อไล่น้ำที่คงค้างอยู่หลังจากขั้นตอน RINSE ให้แห้งสนิท

การใช้ DRY หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิตถัดไป หากจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่ หรือเข้าสู่การทำความสะอาด (CIP) ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ระบบแห้งและพร้อมใช้งานทันที โดยไม่มีการปนเปื้อนของน้ำหรือผลิตภัณฑ์อื่นจากก่อนหน้า

หลังจาก DRY เสร็จสมบูรณ์ ระบบท่อจะว่างเปล่าและพร้อมสำหรับขั้นตอนการผลิตหรือการทำความสะอาดใหม่ได้อย่างสมบูรณ์

นวัตกรรมล่าสุด: FLUIVAC กับการทำความสะอาดแบบ CIP

Fluidor กำลังพัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อนำ FLUIVAC ไปใช้ในกระบวนการล้างระบบ (CIP – Clean-In-Place) โดยได้ร่วมมือกับหน่วยงานวิจัยต่าง ๆ ทำการทดสอบหลายรูปแบบ

เป้าหมายหลักของการพัฒนา:

  • ลดการใช้น้ำ
  • ลดปริมาณสารทำความสะอาด
  • ประหยัดพลังงานและเวลา
  • เพิ่มความยั่งยืนในกระบวนการผลิต

ระบบ FLUIVAC ที่ถูกติดตั้งใหม่หลายจุดกำลังถูกใช้งานทั้งในด้านการกู้คืนผลิตภัณฑ์ และยังสามารถ ทดแทนหรือย่นระยะเวลาในขั้นตอน pre-rinse และ final-rinse ของระบบ CIP ได้อีกด้วย

ประโยชน์ที่โดดเด่นที่สุด: ลดการใช้น้ำจำนวนมากในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มได้อย่างมีนัยสำคัญ

STEP 4 : DRY

 ขั้นตอน DRY คือขั้นตอนที่สี่และขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการ FLUIVAC โดยใช้อากาศจากภายนอกที่ถูกดูดเข้า อัด และส่งผ่านเข้าไปในระบบท่อ เพื่อไล่น้ำที่คงค้างอยู่หลังจากขั้นตอน RINSE ให้แห้งสนิท

การใช้ DRY หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิตถัดไป หากจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่ หรือเข้าสู่การทำความสะอาด (CIP) ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ระบบแห้งและพร้อมใช้งานทันที โดยไม่มีการปนเปื้อนของน้ำหรือผลิตภัณฑ์อื่นจากก่อนหน้า

หลังจาก DRY เสร็จสมบูรณ์ ระบบท่อจะว่างเปล่าและพร้อมสำหรับขั้นตอนการผลิตหรือการทำความสะอาดใหม่ได้อย่างสมบูรณ์

นวัตกรรมล่าสุด: FLUIVAC กับการทำความสะอาดแบบ CIP

Fluidor กำลังพัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อนำ FLUIVAC ไปใช้ในกระบวนการล้างระบบ (CIP – Clean-In-Place) โดยได้ร่วมมือกับหน่วยงานวิจัยต่าง ๆ ทำการทดสอบหลายรูปแบบ

เป้าหมายหลักของการพัฒนา:

  • ลดการใช้น้ำ
  • ลดปริมาณสารทำความสะอาด
  • ประหยัดพลังงานและเวลา
  • เพิ่มความยั่งยืนในกระบวนการผลิต

ระบบ FLUIVAC ที่ถูกติดตั้งใหม่หลายจุดกำลังถูกใช้งานทั้งในด้านการกู้คืนผลิตภัณฑ์ และยังสามารถ ทดแทนหรือย่นระยะเวลาในขั้นตอน pre-rinse และ final-rinse ของระบบ CIP ได้อีกด้วย

ประโยชน์ที่โดดเด่นที่สุด: ลดการใช้น้ำจำนวนมากในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มได้อย่างมีนัยสำคัญ

Fluivac, From Idea to Solution

การจัดการของเหลวในสายการผลิต: ปัญหาที่ทุกโรงงานต้องเผชิญ

หลังจากจบกระบวนการผลิตหรือแปรรูปผลิตภัณฑ์ สายท่อและอุปกรณ์ทั้งหมดในระบบ (เรียกรวมกันว่า “สายการผลิต”) — ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เช่น ถังพักหรือจุดบรรจุ — จะยังคง เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ ที่หลงเหลืออยู่ภายใน

ผลิตภัณฑ์ที่ค้างอยู่ในท่อเหล่านี้: ยังสามารถนำไปใช้ต่อในกระบวนการถัดไปได้ แต่บ่อยครั้งกลับถูกระบายทิ้งและกลายเป็นของเสีย ก่อนเริ่มการผลิตรอบใหม่ โรงงานจำเป็นต้อง ทำความสะอาดสายการผลิตทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่ใช้ของเหลวเป็นหลัก (Liquid Food Industry) จึงมีการพัฒนา หลากหลายวิธี สำหรับ:การกู้คืนผลิตภัณฑ์ที่หลงเหลือในท่อและการล้างทำความสะอาดสายการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ

ถ้าโรงงานของคุณกำลังสูญเสียผลิตภัณฑ์ปลายท่อ หรือใช้น้ำล้างจำนวนมากโดยไม่ได้ผลตอบแทน ลองมองหาโซลูชันที่ยั่งยืนกว่า — เช่น FLUIVAC ระบบกู้คืนผลิตภัณฑ์พร้อมทำความสะอาดในตัว

จุดเริ่มต้นของนวัตกรรม FLUIVAC
ในปี 2002 บริษัท Fluidor Equipment B.V. (ต่อไปนี้เรียกว่า “Fluidor”) ได้เล็งเห็นปัญหาสำคัญในกระบวนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร — คือ การสูญเสียผลิตภัณฑ์ในสายการผลิตที่ยังสามารถนำมาใช้ได้แนวคิดในการพัฒนาระบบใหม่ที่ช่วย ลดของเสียจากการผลิต จึงถือกำเนิดขึ้น และกลายมาเป็น FLUIVAC รุ่นแรก ที่สามารถกู้คืนผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พัฒนาอย่างต่อเนื่องจากเสียงของลูกค้า
เมื่อ FLUIVAC เริ่มใช้งานจริง Fluidor ได้รับ เสียงตอบรับในทางบวกจากตลาด ว่า นอกจากจะช่วยกู้คืนผลิตภัณฑ์ได้แล้ว ยังสามารถ:

  • ประหยัดน้ำปริมาณมาก
  • ลดต้นทุนการผลิต
  • ลดของเสียในกระบวนการผลิตอย่างชัดเจน

ด้วยข้อมูลจริงจากผู้ใช้งานทั่วโลก ทำให้ในปี 2011 FLUIVAC รุ่นที่ 2 ได้ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นยิ่งกว่าเดิม และในปี 2016 FLUIVAC รุ่นที่ 3 ได้เปิดตัวและติดตั้งใช้งานจริงกับผู้ผลิตอาหารหลากหลายรายทั่วโลก

FLUIVAC: ก้าวสำคัญสู่กระบวนการผลิตที่ยั่งยืน

ปัจจุบัน FLUIVAC กลายเป็นส่วนหนึ่งของสายการผลิตในอุตสาหกรรมอาหารชั้นนำ
ช่วยให้โรงงานสามารถ:

  • ลดของเสียที่เกิดจากการล้างระบบ
  • ประหยัดน้ำและพลังงาน
  • กู้คืนผลิตภัณฑ์ได้สูงสุดถึง 98%
  • และที่สำคัญที่สุด – สนับสนุนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

Conventional Methods – วิธีการแบบดั้งเดิมที่ยังใช้กันอยู่

ในระบบสายการผลิตของอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และของเหลวทั่วไป การทำความสะอาดก่อนเริ่มการผลิตใหม่มักใช้ วิธีการแบบดั้งเดิม (Conventional Methods) ซึ่งรวมถึง:

1. การล้างด้วยน้ำเปล่า (Water Flushing)
ใช้น้ำในปริมาณมากเพื่อชะล้างผลิตภัณฑ์ที่หลงเหลืออยู่ในท่อและอุปกรณ์

    • ข้อเสีย:สูญเสียน้ำสูง และยังสูญเสียผลิตภัณฑ์ไปพร้อมกัน

 

2. ระบบ CIP (Clean-in-Place)
ใช้น้ำยาทำความสะอาด เช่น ด่าง กรด และน้ำร้อน ไหลวนในระบบโดยไม่ต้องถอดอุปกรณ์

    • ทำความสะอาดได้ล้ำลึก
    • แต่ไม่ได้กู้คืนผลิตภัณฑ์ และมีต้นทุนสูงทั้งน้ำ ไฟ และสารเคมี

 

3.Manual Cleaning – ถอดล้างอุปกรณ์ด้วยมือ
ใช้แรงงานคนถอดอุปกรณ์ออกมาทำความสะอาด

  • เสียเวลาแรงงานมาก ไม่เหมาะกับสายการผลิตขนาดใหญ่

การล้างด้วยน้ำ (Water Flush)

ระบบ Pigging และ Ice Pigging — ทางเลือกที่มีข้อจำกัด

🚧 Pigging คืออะไร?

Pigging
เป็นเทคนิคที่ใช้วัตถุหนึ่ง (เรียกว่า “พิก”) ผลักของเหลวออกจากท่อ โดยการอัดแรงดันจากน้ำ (หรือบางกรณีใช้อากาศ) ที่ฉีดเข้าอีกด้านหนึ่งของท่อ เพื่อดันพิกให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า พิกนี้ผลิตจากวัสดุฟู้ดเกรด จึงสามารถใช้ในอุตสาหกรรมอาหารได้
________________________________________

❌ ข้อเสียสำคัญของระบบ Pigging:

  • ต้อง ออกแบบระบบท่อทั้งหมดให้พิกเคลื่อนที่ผ่านได้อย่างไม่มีสิ่งกีดขวาง เช่น วาล์ว, ปั๊ม, ฟิลเตอร์ หรือเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบแผ่น (Plate Heat Exchanger) หากมีสิ่งเหล่านี้อยู่ ระบบ Pigging จะใช้งานไม่ได้
  • มีความเสี่ยงที่ พิกจะติดอยู่ในท่อหรือสูญหายภายในสายการผลิต
  • พิกอาจเสื่อมสภาพหรือแตกหักได้เมื่อใช้งานต่อเนื่อง

________________________________________

💡Ice Pigging คืออะไร?

เพื่อแก้ไขข้อจำกัดบางส่วนของ Pigging แบบเดิม จึงมีการพัฒนา เทคนิค Ice Pigging
โดยการฉีดสารผสมเย็นจัด (น้ำแข็งกึ่งของเหลว) เข้าไปในระบบท่อร่วมกับน้ำ เพื่อผลักผลิตภัณฑ์ออกจากท่อ
ข้อดีของ Ice Pigging:

  • มีความยืดหยุ่นสูง สามารถผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบท่อได้ง่ายกว่าพิกธรรมดา แต่ยังมีข้อจำกัด
  • เหมาะกับของเหลวที่มีความหนืดต่ำ และท่อขนาดเล็กเท่านั้น
  • เมื่อใช้กับท่อขนาดใหญ่ หรือผลิตภัณฑ์ที่หนืดมาก Ice Pigging จะ ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ผลิตภัณฑ์บางชนิดห้ามสัมผัสน้ำ ดังนั้นการใช้ Ice Pigging จึงอาจทำให้เกิดการปนเปื้อน
รายการเปรียบเทียบ FLUIVAC Pigging Ice Pigging
การกู้คืนผลิตภัณฑ์ (Yield Recovery) ✅ สูงถึง 90–98% ✅ สูง (ขึ้นอยู่กับการออกแบบระบบ) ✅ ปานกลางถึงสูง (เฉพาะของเหลวบางประเภท)
การใช้น้ำในการล้างท่อ ✅ ใช้น้ำน้อยมาก เฉพาะขั้นตอน RINSE ❌ ไม่ใช้น้ำ แต่ใช้แรงดันอากาศ ❌ ต้องใช้น้ำในการผลิตน้ำแข็ง และล้างระบบ
ความยืดหยุ่นกับระบบซับซ้อน (วาล์ว/ปั๊ม/แลกเปลี่ยนความร้อน) ✅ ใช้ได้กับระบบที่มีอุปกรณ์ซับซ้อน ❌ จำกัด ต้องออกแบบให้ “Pig” ผ่านได้เท่านั้น ✅ ยืดหยุ่นกว่าพิกทั่วไป แต่อาจเข้าไม่ถึงทุกระบบ
ความเสี่ยงจากสิ่งแปลกปลอมในท่อ ✅ ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนที่ในท่อ ❌ มีความเสี่ยงที่ Pig จะติดหรือแตก ⚠️ น้ำแข็งอาจละลายไม่สม่ำเสมอ หรือเจือจางผลิตภัณฑ์
ความสะอาดหลังล้าง (Visual Clean) ✅ ท่อสะอาดพร้อมผลิตทันที ⚠️ แล้วแต่การล้างหลังจาก Pig ผ่าน ⚠️ แล้วแต่คุณภาพของน้ำแข็งและแรงดัน
โอกาสปนเปื้อนจากน้ำหรือสิ่งแปลกปลอม ✅ ต่ำ – ใช้อากาศกรองปลอดเชื้อ (Sterile air) ⚠️ อาจมีสารตกค้างในท่อ หาก Pig ไม่ผ่านครบ ⚠️ น้ำแข็งเจือจางผลิตภัณฑ์และอาจปนเปื้อนหากไม่สะอาด
การบำรุงรักษา / ความซับซ้อนระบบ ✅ บำรุงรักษาง่าย ใช้งานอัตโนมัติ ❌ ต้องดูแล Pig และระบบลมอย่างต่อเนื่อง ❌ ต้องควบคุมอุณหภูมิ + ผลิตน้ำแข็งเฉพาะทาง
การประหยัดต้นทุนในระยะยาว ✅ ช่วยลดค่าวัตถุดิบ น้ำ และพลังงานได้ชัดเจน ⚠️ ประหยัดผลิตภัณฑ์ แต่มีต้นทุนการออกแบบระบบเฉพาะ ⚠️ มีค่าใช้จ่ายในการผลิตน้ำแข็งและการจัดการน้ำทิ้ง
ความเหมาะสมกับอุตสาหกรรมอาหาร ✅ สูง – ได้มาตรฐานสุขอนามัย ⚠️ จำกัดเฉพาะบางสายการผลิตที่ปรับระบบให้เหมาะสมได้ ⚠️ เหมาะกับของเหลวเบา ท่อขนาดเล็ก ไม่เหมาะกับของข้นมาก